จุดที่ต่อเรือเจดีย์ เกิดจากช้างเสี่ยงทายของพระเจ้าอโนรธาย่างก้าวมาหยุดอยู่ ณ หาดทรายตลิ่งแม่น้ำอิระวดี จึงเฉลิมนาม “ชเวสิกอง” หรือในเสียงพม่าว่า “ชเวซีโข่ง” แปลตรงตัวว่าเจดีย์ทองบนพื้นทรายเจดีย์ที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์แห่งความชนะของพม่าที่มีเหนือมอญ และยังเป็นตราแห่งความศรัทธาในศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ที่เอ้คือเป็นเจดีย์บรรจุพระทันตธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชาวพม่าและนักท่องเที่ยวทัวร์พม่าราคาถูกจึงเคารพนับถือเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดในความคิด
พุทธรูปพรรณเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำแบบมอญ เสริมแต่งลายเชิดขึ้นสูงด้วยเฟื่องอุบะ และแถบคาดรอบองค์ระฆังที่เรียกว่า “รัดอก” แซมจิตรประดับทั้งขอบล่างและขอบบน องค์เจดีย์หุ้มด้วยแผ่นทอง ตั้งบนฐาน 3 ชั้น รวมความเนินจากฐานถึงยอด 53 เมตร หรือกว่า 170 ฟุต รอบนอกชานมีภาพแผ่นเคลือบปูนปั้นเล่าในเรื่องเล่าชาดกสอนใจคน รอบฐานเจดีย์มีวิหารโถงประดิษฐานพุทธปฏิมากรทั้งสี่ทิศ ถือเป็นศิลปะพุกามรุ่นแรกที่ได้รับเดชจากมอญ เจดีย์นี้เริ่มทำสมัยพระเจ้าอโนรธามหาราช (พ.ศ.1587 – 1620) มาจบสิ้นสมัยพระเจ้าจันสิตตา (พ.ศ.1627 - 1656) รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์พุกาม
ที่น่ารู้คือละแวกลานหน้าบันไดทางขึ้นสู่เจดีย์ทิศตะวันออก มีหลุมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว ลึก 2 นิ้ว ใส่น้ำไว้เพราะด้วยนั่งคุกเข่ามองเงายอดเจดีย์ที่เด้งลงผิวน้ำ หลุมนี้ทำขึ้นใหม่เมื่อมีการเทปูนที่ลานรอบองค์เจดีย์ แต่ชาวพม่าเล่าขานว่าตรงจุดนี้เคยมีหลุมมาตั้งแต่ช่วงเวลาพุกามแล้ว เจดีย์ชเวสิกองถูกแก้ไขในสมัยต่อมาอีกหลายครั้ง เจดีย์ชเวสิกองเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำพื้นผิวภายนอกถูกปิดด้วยทองคำเปลว
No comments:
Post a Comment