แม้แต่ในตำนานของไทยก็ยังกล่าวในเชิงเชิดชูพระเจ้าชนะสิบทิศผู้นี้ว่าเป็นผู้เป็นใหญ่ผู้มีบุญญาธิการ แม้ทำการรบพุ่งกับสยามก็กระทำการตามแบบแผนกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ หาได้จี้ปล้นเมืองทำลายล้างบ้านดังการศึกครั้งอื่นๆพระเจ้าบุเรงนองได้สร้างจวนบุเรงนองรุ่งโรจน์ในปี พ.ศ. 2109 เพื่อใช้เป็นศูนย์ทางการถือบังเหียนและใช้คลอดว่าราชการ ภายหลังในปี พ.ศ. 2142 ในกาลสมัยพระเจ้านันทบุเรง พระราชวังบุเรงนองได้ถูกขีดฆ่าด้วยฝีไม้ลายมือของพวกยะไข่เข้ากับตองอู ทิ้งให้พระบรมมหาราชวังแห่งนี้รกเรื้อลงเป็นยุคสมัยร่วม 3 ศตพรรษ
ทางราชการพม่ามีการฟื้นฟูปรับปรุงรวมทั้งเนรมิตพระราชสำนักขึ้นมาซ้ำ เพื่อรังรักษ์ภาพความเป็นใหญ่เป็นโตรุ่งเรืองจากสมัยเก่าให้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ดังที่พาราหงสาวดีราชธานีในสมัยของพระเป็นเจ้าบุเรงนอง ได้มีการค้นหาที่อาศัยที่มีนามว่า กัมโพชะธานี และจากการรังสรรค์ที่พักขึ้นมาใหม่คร่อมทับบนซาก พื้นฐานเดิม โดยอาศัยผู้เห็นเหตุการณ์ปะติดปะต่อจากเอกสารของวิรัชและของพม่ามอญเองที่มีไม่มากนัก แต่ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่โตงามเลิศที่คนไทยประดาต่างก็แห่พากันไปแล "วังบุเรงนอง" แห่งนี้ มีทั้งพระที่อยู่ของแต่ละแม่ท่านต่างๆ ที่เคยอ่านพบในนวนิยาย ที่อยู่แห่งนี้ยังเคยเป็นที่กดตราของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งยังธำรงพระเยาว์และถูกจับเป็นตัวจำนำอีกด้วย ส่วนอีกด้านหนึ่งของปราสาทจะมองเห็นพระบรมสารีริกธาตุสีทองเด่น อยู่หลังแนวต้นมะพร้าว ซึ่งก็คือพระมหาธาตุเจดีย์มุเตาที่พระผู้เป็นเจ้าบุเรงนองทรงเคารพสดุดี ตั้งอยู่ทางข้างหน้า ที่ตอกตราของพระองค์ เพื่อที่ว่าพระผู้เป็นเจ้าบุเรงนองจะได้สังเกตเห็นและกราบไว้ไหว้ทั้งก่อนหลับและหลังจากตื่นทอดตัวในตอนเช้า
No comments:
Post a Comment