วัดพุลกุกซา ที่แปลว่า “วัดแห่งพระพุทธศาสนา” อยู่ในสภาพที่จังหวัดเคียงจู โดยนักเดินทางที่ไปเยี่ยมจะต้องนั่งลงรถบัสจากตัวเมืองเคียงจูไปวัดพุลกุกซาอีกคร่าวๆ 20-30 นาที แต่ความห่างนั้นก็มีประโยชน์เพราะการที่วัดอยู่ไกลออกจากเมืองทำให้เราเชยชมได้กับบรรยากาศเงียบแคล้วคลาดมลพิษทางเสียง และโดนได้ถึงธรรมชาติโดยรอบของวัดตำแหน่งที่ตั้งอยู่กลางชรัวโทฮัมซาน (Tohamsan) ได้เป็นเป็นอันดี
วัดพุลกุกซา ถูกรังสรรค์ขึ้นในศักราช ค.ศ.535 และได้รับการบูรณะต่อเติมเรื่อยมา เป็นพิเศษในเวลาของพระผู้เป็นเจ้าพ็อบฮึง (Beop Heung) แต่โชคร้ายที่ตัววัดถูกตัดลงแทบทั้งเพ เหลือไว้ก็แต่เพียงตัวสะพานและเจดีย์ที่ทำจากหินภูธร ในช่วงศึกสงครามกับประเทศญี่ปุ่นราวปี ค.ศ. 1593 ต่อมาหลังการปรับปรุงขึ้นใหม่ องค์การยูเนสโกก็ได้ขึ้นบัญชีรายชื่อวัดพุลกุกซาเป็นมรดกโลกเมื่อศักราช ค.ศ.1995
เมื่อก้าวข้ามประตูวัด ผู้มาไปพบจะพบกับสัญลักษณ์ของวัดพุลกุกซา นั่นก็คือ บันไดหินยักษ์ที่ทอดยาวก้าวเข้าสู่ตัววัด กระไดหินนี้มีส่วนแบ่งขั้นทั้งสิ้น 33 ขั้น ตรงตามแบบอย่างของชาวชิลลาคำกล่าวสวรรค์ 33 ชั้น แม้ในยุคปัจจุบันจะไม่อวยให้ผู้เดินทางหรือผู้มาไปหาเดินขึ้นวัดจากกระไดนี้อีกแล้ว แต่นักเดินทางสามารถหยุดชักรูป และเคารพความงามของตราแห่งชิลลานี้ได้นานเท่าที่อยาก
CLICKSTOUR ขอรายงานบริการ ทัวร์เกาหลี ทัวร์เกาหลีราคาถูก เที่ยวเกาหลี เที่ยวเกาหลีราคาถูก
No comments:
Post a Comment