บากหน้าเจดีย์ทางลงไปสู่แม่น้ำอิรวดี มีสิงฆ์คู่ขนาดยักษ์ แต่เสียหายด้วยเหตุว่าแผ่นดินไหวเช่นเดียวกันครับ เหลือแต่สะโพกขนาดใหญ่ วัดพม่าจะทำสิงห์คู่ตั้งใจวัด ส่วนวัดไทยจำนวนมากจะใช้พญานาค ต่อไปไม่ห่างจากเจดีย์มินกุงจะประจวบกับระฆังมินกุง(Mingun Bell) ซึ่งพระเป็นเจ้าปะดุงทรงประดิษฐ์ไว้ เป็นระฆังทองบรอนซ์ที่มหึมาที่สุดในประเทศพม่า น้ำหนักประมาณ 90 ตัน ระฆังนี้ดำเกิง 4 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่ปากกว้างราว 5 เมตร ถือเป็นระฆังที่ห้อยอยู่ซึ่งมหึมาที่สุดในโลก
Tuesday, August 23, 2016
เที่ยวพม่า ชมเจดีย์และระฆังสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศพม่า
มินกุง(Mingun) เป็นหมู่เหย้าริมแม่น้ำอิรวดีฝั่งประจิม ห่างจากมัณฑะเลย์ตีค่า 11 กิโลเมตร เมื่อประพาสต้นมาถึงเราก็แวะทำเลแรกกันเลยครับ เจดีย์มินกุง(Mingun Pahtodawgyi) กำหนดชื่ออีกอย่างหนึ่งว่าปาโตดอจี(Pahtodawgyi) ซึ่งมีความนัยว่าเจดีย์ที่ประกอบไม่เสร็จ พระเจ้าปดุงมีพระราชดำริจะคิดค้นเจดีย์มิงกุน ใช่ไหม “เจดีย์จักรพรรดิ” ที่อุรุที่สุดและอุจกว่าเจดีย์ใดๆในสุวรรณภูมิ รอยแห่งความตะโกรงของพระเจ้าปดุง ด้วยทรงเคลื่อนไหวทัพไปตียะไข่ แล้วสมรรถชะลอพระมหามัยมุนีมาเข้าประจำที่ที่มัณฑะเลย์เป็นผลเกิดผล จึงทรงคึกที่จะดำเนินการการเบิ้มขึ้นและยุ่งยากขึ้น ด้วยการทำการสู้รบลามไปรอบด้านกับกับเกณฑ์กรรมกรข้าทาสส่วนใหญ่ก่อรังสรรค์เจดีย์มิงกุน ใช่ไหมเจดีย์จักรพรรดิ เพื่อเข้าประจำที่พระทันตธาตุที่ได้จากพระผู้เป็นเจ้ากรุงจีน โดยทรงจำนงให้ใหญ่โตมโหฬารเสมอมหาเจดีย์ในสมัยพุกามและใหญ่โตเอาฬารยิ่งกว่าพระปฐมเจดีย์ในประเทศสยาม ซึ่งในหนนั้นถือเป็นเจดีย์ที่โด่งยอดในสุวรรณภูมิ มีผลให้ข้าทาสชาวยะไข่เหรออาระกันจำนวนรวม 50,000 คนดอดหนีการขดขี่พลังงานไปอยู่ในเขตเบงกอล เป็นบริเวณในข้อบังคับของอังกฤษ แล้วทำการซ่องสุมศักดิ์เป็นโจรลอบกระหน่ำกองทัพพม่าอยู่เนืองๆโดยพม่าปรักปรำว่าอังกฤษหนุนหลังกลายเป็นฉนวนให้เกิดการทำศึกอังกฤษ-พม่า อันเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำเอาพม่าเสียเมืองในที่สุด อย่างไรก็ตามงานก่อเจดีย์มิงกุนเดินไปได้เพียง 7 ปี พระเจ้าปดุงเสด็จแตกดับ ตอนหลังทรงแพ้ไทยในสงครามเก้าทัพ มหาเจดีย์อันเด่นในพระราชหฤทัยของพระองค์จึงบังเกิดเพียงแค่ฐาน ทว่าใหญ่โตใหญ่ดั่งภูเขาอิฐที่มีความคงทนถึง 50 เมตร ซึ่งหากปลูกเสร็จตามแผนจะเป็นเจดีย์ที่โต้งที่สุดและสูงที่สุดในโลก เพราะอุจถึง 152 เมตร ส่วนรอยผิดใจตรงกลางปฐมเกิดจากตำนานแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2381
บากหน้าเจดีย์ทางลงไปสู่แม่น้ำอิรวดี มีสิงฆ์คู่ขนาดยักษ์ แต่เสียหายด้วยเหตุว่าแผ่นดินไหวเช่นเดียวกันครับ เหลือแต่สะโพกขนาดใหญ่ วัดพม่าจะทำสิงห์คู่ตั้งใจวัด ส่วนวัดไทยจำนวนมากจะใช้พญานาค ต่อไปไม่ห่างจากเจดีย์มินกุงจะประจวบกับระฆังมินกุง(Mingun Bell) ซึ่งพระเป็นเจ้าปะดุงทรงประดิษฐ์ไว้ เป็นระฆังทองบรอนซ์ที่มหึมาที่สุดในประเทศพม่า น้ำหนักประมาณ 90 ตัน ระฆังนี้ดำเกิง 4 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่ปากกว้างราว 5 เมตร ถือเป็นระฆังที่ห้อยอยู่ซึ่งมหึมาที่สุดในโลก
บากหน้าเจดีย์ทางลงไปสู่แม่น้ำอิรวดี มีสิงฆ์คู่ขนาดยักษ์ แต่เสียหายด้วยเหตุว่าแผ่นดินไหวเช่นเดียวกันครับ เหลือแต่สะโพกขนาดใหญ่ วัดพม่าจะทำสิงห์คู่ตั้งใจวัด ส่วนวัดไทยจำนวนมากจะใช้พญานาค ต่อไปไม่ห่างจากเจดีย์มินกุงจะประจวบกับระฆังมินกุง(Mingun Bell) ซึ่งพระเป็นเจ้าปะดุงทรงประดิษฐ์ไว้ เป็นระฆังทองบรอนซ์ที่มหึมาที่สุดในประเทศพม่า น้ำหนักประมาณ 90 ตัน ระฆังนี้ดำเกิง 4 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่ปากกว้างราว 5 เมตร ถือเป็นระฆังที่ห้อยอยู่ซึ่งมหึมาที่สุดในโลก
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment